ตอนที่ 1.3 ลองให้มังกรกินดูค่ะ 3
บทที่ 1.3 ลองให้มังกรกินดูค่ะ (3)
[คุณชานอน รอด้วย!]
พยายามจะส่งเสียงเรียกทั้งที่ตัวเองก็ยังหอบแฮ่กแฮ่กอยู่ ใช้ความเร็วสูงสุดเท่าที่จะทำได้ในการไล่ตามชานอนไป ถ้าผ่านส่วนลึกของป่านี่ไปได้ก็จะใกล้กับจุดที่มังกรลงจอด
[คุณชานอน!]
ครั้งนี้เสียงส่งไปถึง ชานอนหยุดแล้วหันกลับมาถอนหายใจใส่
[โธ่ ยังตามมาอีกเหรอ? มันอันตรายกลับไปได้แล้ว ฉันเองก็ปกป้องไคล์ไม่ได้หรอกนะ]
[คะ คือว่า…]
ไคล์เอามือจับเข่าแล้วหอบหายใจ จากนั้นก็เริ่มพูดต่อ
[คะ คิดจะไปสู้กับมังกรคนเดียวใช่ไหมละ!? ไม่ไหวหรอก!]
ทันใดนั้นชานอนก็ทำสีหน้างุนงง
[หวาย เข้าใจอะไรผิดใช่ไหมเนี่ย?]
[เอ๊ะ? กะ ก็จะไม่สนใจคำที่หัวหน้าหมู่บ้านบอกว่าห้ามเข้ามายุ่งแล้วช่วยพวกผมไม่ใช่หรือไง!?]
ถ้าไม่ใช่แบบนั้นก็ไม่เห็นเหตุผลอะไรที่นักเดินทางและไม่ใช่คนในหมู่บ้านนี้อย่างชานอนจะไปสู้กับมังกรทำไม หากจะมีเหตุผลอื่นใดนอกจากนี้ก็คงมีเพียงการที่มีความปรารถนาที่อยากจะตายเท่านั้น
[ถึงจะดีใจก็เถอะ…แต่ผมก็ไม่อยากให้คุณชานอนตายนะ]
ชานอนนั้นเป็นคนใจดี เพราะฉะนั้นจึงได้พยายามทำเพื่อหมู่บ้าน เป็นคนที่เปิดใจไม่แบ่งแยกกับทุกคน สนิทกับคนอื่นได้ไวและชานอนที่รักหมู่บ้านนี้กำลังพยายามจะทำอะไรบางอย่างเพื่อจะตอบแทนอยู่ ไคล์ก็เช่นกัน เขาไม่อยากให้เพื่อนที่สนิทกันอย่างชานอนต้องตายไปจึงได้พยายามหยุดไว้ให้ได้ เพียงแต่คำตอบของชานอนนั้นก็ทำให้ชัดแจ้งขึ้นมา
[ก็บอกแล้วไงฉันไม่ได้จะทำอะไรเพื่อหมู่บ้านกับไคล์สักหน่อย…ไม่ได้มาด้วยเหตุผลสุดเจ๋งแบบนั้นสักนิด เลยไม่อยากให้ไคล์มาพัวพันไง หนีไปได้แล้ว]
[งะ งั้น ตั้งใจจะทำอะไรกัน—แน๊!?]
ชั่วขณะนั้นชานอนเอามือปิดปากไคล์แล้วผลักเข้าไปในพุ่มไม้
[เงียบก่อน]
[อื้อ อื้ม..!]
[ก็บอกให้เงียบก่อนไง]
[….]
พอได้ฟังน้ำเสียงจริงจังแล้วไคล์ก็กอดชานอนไว้แน่นแล้วเงียบตามที่บอก เงียบมากจนได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองและชานอนด้วยพอแอบเงยหน้าขึ้นมาแอบมองชานอนก็พบว่าเธอกำลังมองไปทางอื่นอยู่
[กะ เกิดอะไรขึ้น…?]
กระซิบถามด้วยเสียงแสนจะเบา ชานอนตอบกลับมาว่า [ตรงนั้น] ด้วยเสียงกระซิบเช่นกัน พอไคล์หันไปมองในทิศทางที่ชานอนหันหน้าชี้ก็พลันไปเห็นภาพสีเงินเข้ามาใส่สายตาผ่านพุ่มสีเขียวเข้ม หัวใจเต้นแรง รู้สึกได้เลยว่าเลือดในร่างกายนั้นไหลเวียนเร็วขึ้น ภาพสีเงินที่เห็นนี้เพิ่งเคยพบเจอเป็นครั้งแรก
[มังกร…!]
[ได้เจอกันไวดีนะ]
ชานอนพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นขึ้น เผลอยิ้มที่มุมปาก แววตาเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
[เหมือนจะบาดเจ็บอยู่นี่นา ถ่อมาถึงขนาดนี้แสดงว่าคงมีอะไรเกิดขึ้นสินะเนี่ย]
พอได้ลองสังเกตดูแล้วก็พบว่ามังกรมีบาดแผลอยู่เต็มตัวจริง ๆ แต่ไม่สามารถคิดได้เลยว่าสิ่งมีชีวิตแบบใดจะเข้าทำร้ายเกล็ดแสนจะแข็งได้นอกจากมังกรด้วยกันเอง
[บาดเจ็บ…]
[กรร…]
[!]
เสียงของมังกรดังก้องกังวาล ตอนนี้มังกรอยู่ห่างกันอยู่ไม่ถึงสิบเมตร ความตึงเครียดขึ้นสูง ถ้าหากขยับตัวแม้แต่นิดเดียวจะต้องโดนกรงเล็บโจมตีแน่นอน ภาพไม่น่าอภิรมย์เช่นนั้นลอยเข้ามาในหัว
[คุณชานอน…หนีกันก่อนเถอะ—]
[งั้นฉันไปก่อนนะ]
[เอ๊ะ!?]
ตรงกันข้ามกับไคล์ที่เครียดและอึดอัดถึงขีดสุดนั้น ชานอนกลับมีท่าทางตื่นเต้นถึงขีดสุด ไม่สามารถคิดได้เลยว่าเป็นชานอนคนเดียวกับก่อนหน้านี้ ตัวชานอนในตอนนี้นั้นไม่เห็นอย่างอื่นในสายตานอกจากมังกรเลย แน่นอนว่าชีวิตของตัวเองก็ด้วย
[ไคล์กลับไปเถอะ หลังจากนี้จะเกะกะเอาน่ะ]
[ทะ ที่พูดมานั่นเอาจริงเหรอ!? จะตายเอาไม่ใช่เหรอ!? อีกฝ่ายเป็นมังกรนะ!?]
พยามจะขึ้นเสียงทั้ง ๆ ที่ยังพูดเสียงเบาอยู่ เพียงแต่ชานอนกลับตอบกลับอย่างไม่ใยดี
[การเดินทางของฉันมีเพื่อการนี้แหละ เพราะฉะนั้นไคล์กลับแล้วรอกองปราบปรามเถอะ แต่พวกเขาก็ไม่ไหวเหมือนกัน อย่างน้อยก็พาพ่อแม่หนีไปก็ได้ ฉันไม่อยากให้ไคล์ตายนะ]
[ผมก็เหมือนกันนี่…เดินทางอะไรกัน…ของแบบนั้นไม่สนหรอก!]
น้ำตาคลอเอ่อล้นออกมา ขมวดคิ้วแล้วจับตัวของชานอนแน่นไม่ยอมปล่อย ทันใดนั้นมือของชานอนก็ถูกวางลงบนหัว
[ขอบคุณนะ แต่โอกาสอุตส่าห์มาแล้วทั้งทีก็ไม่อยากทิ้งน่ะ แน่นอนว่ารู้สึกขอบคุณไคล์มากเลยนะ แต่สิ่งที่จะทำไม่ได้ทำเพื่อหมู่บ้านหรอก เป็นแค่ความตั้งใจของฉันเอง]
จากนั้นชานอนก็ยิ้มออกมา
[เป็นสิ่งที่ฉันอยากจะทำคนเดียวไม่เกี่ยวกับหมู่บ้านเลย หลังจากธุระของฉันจบแล้วจะฆ่ามังกรก็เอาเลยนะ ]
โกหก เพราะคู่ต่อสู้คือมังกรดังนั้นคงไม่มีใครที่ไหนอยากสู้ด้วยเหตุผลส่วนตัวอย่างแน่นอน
[งั้นไปก่อนนะ! รักษาตัวด้วย!]
เพื่อชานอนพูดจบก็วิ่งไปในทิศทางที่มีมังกรอยู่
[คุณชานอน!]
แม้จะเอื้อมไปเท่าไหร่ก็พบแต่ความสิ้นหวัง ชานอนวิ่งไกลออกไปเสียแล้ว ระยะห่างเพียงไม่ถึงสิบเมตรเท่านั้น ชานอนก็แหวกพุ่มไม้เพื่อไปหามังกร มังกรตอบสนองทันที มันค่อย ๆ หันหน้าไปมองชานอนผ่านดวงตาสีเหลือง แค่เพียงได้เห็นใบหน้าและสายตานั้นก็ทำให้ร่างกายสั่นสะท้านไปด้วยความกลัวได้
[ดีจ้า- คุณมังกร]
ชานอนส่งเสียงทักทายอย่างเคยพร้อมกับยิ้มให้ มังกรที่กำลังจ้องมองอยู่มีการตอบสนองต่อคำพูดนั้น มันทำการอ้าปาก จากนั้น
[กรรรรรรรรรรรรรรร!!!!]
เสียงคำรามชวนให้หูบอดดังขึ้น คลื่นกระแทกที่พุ่งออกมาตัดผ่านก้อนหินและต้นหญ้า ก้อนหินที่กระเด็นเข้ามากระแทกใส่ชานอนจนทำให้ผิวขาว ๆ ของเธอมีเลือดซึมออกมา ถ้าเป็นสถานการณ์ทั่วไปป่านนี้คงกลัวแย่แล้ว แต่ชานอนกลับทำสีหน้าสนุกสนานออกมาหนีไปเถอะ ร่างกายพยายามจะตะโกนบอก เพียงแต่จะให้หนีไปคนเดียวแล้วทิ้งชานอนไว้ไคล์เองก็ทำไม่ได้ อย่างน้อยก็ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยชานอน แม้ในหัวจะเข้าใจแต่ร่างกายกลับไม่ยอมขยับ แค่ลืมตาขึ้นมา แค่เดินออกไป แค่นั้นก็ทำไม่ได้
[สิ่งมีชีวิตที่แกร่งที่สุด…ถ้าเป็นเธอละก็]
หลังคำพูดนั้นชานอนก็กางแขนออกราวกับจะโอบกอด
[บางทีฉันน่าจะอร่อยน้า]
[กรรรร!!]
มังกรอ้าปากราวกับจะตอบรับ เผยให้เห็นเขี้ยวที่ส่องประกายและภายในปากที่มืดและดำสนิทราวกับหลุมดำที่จะดูดกลืนทุกสิ่งเข้าไป ชานอนไม่ตอบโต้หรือใช้เวทมนตร์ใด ๆ ทำแค่เพียงยืนรับมันไว้เท่านั้น จากนั้นหัวของมังกรก็พุ่งเข้าไปชานอน ปากอันกว้างใหญ่เขมือบชานอนเข้าไปและปิดลงในทันที ร่างกายตั้งหัวจรดเท้าของชานอนถูกกลืนเข้าไปในปากอย่างงดงาม
[อุก…ว๊ากกกกกกก!!]
เสียงกรีดร้องดังขึ้นเมื่อได้เห็นภาพเช่นนั้น คุกเข่าลงไปกับพื้นและทำได้เพียงจ้องมองไปทางมังกรเท่านั้น
[อะ…อ๊า…ชะ…คุณชานอน…!]
มังกรได้ทำการเคี้ยวและกลืนตัวของเธอเข้าไป
[…]
ชานอนที่พูดคุยกันอย่างร่าเริงเมื่อไม่นานมานี้ กลับถูกมังกรกินเข้าไปต่อหน้าต่อตา เป็นหนึ่งในภาพที่ไม่ควรจะได้พบเจอในชีวิต เป็นภาพที่ควรจะเป็นแค่เพียงความฝันเท่านั้น ขนทั่วทั้งร่างกายลุกซู่ เลือดไหลเวียนอย่างรวดเร็ว ความรู้สึกเริ่มจะล่องลอยออกไป เหตุการณ์ที่ไม่สมจริงนี้ทำให้ความคิดถูกแช่แข็ง แต่ถึงอย่างนั้นเวลาก็ไม่หยุดลง
[กรรร…]
มังกรทำท่าทางราวกับจะบอกว่ายังไม่พอใจและค่อย ๆ หันหัวมาทางของไคล์ สายตาทำให้สันหลังเย็นวาบ ตัวสั่นเทาไปทั้งร่าง ส่งเสียงดังขนาดนั้นไม่มีทางที่มังกรจะไม่รู้ตัวและต่อไปเป็นตาของไคล์ที่จะโดนแล้ว ไม่มีแรงเหลือพอที่จะหนีอีกแล้ว ตั้งแต่ชานอนถูกกินเข้าไปหัวใจก็พังทลายไปสิ้นด้วยเช่นกัน ถ้าเป็นจอมเวทละก็คงจะ—ความคิดอ่อนหัดแบบนั้นเคยมีอยู่ในหัว ว่าชานอนคนนั้นไม่มีทางตายได้แต่ความจริงช่างไร้ปราณีเหลือเกิน ตึก ตึกตัก มังกรค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ บางทีอาจจะสัมผัสได้ว่าความใจสู้ของไคล์ได้หมดลงไปแล้วจึงไม่รีบร้อน แผ่นดินสะเทือนหนักขึ้นเมื่อระยะห่างลดลงจนสุดท้ายมันก็มายืนอยู่ตรงหน้าไคล์ ได้กลิ่นเลือดเตะจมูกเข้ามาจากปากของมังกร ลมหายใจอุ่น ๆ ของมันปะทะกับใบหน้า
[….]
ไคล์หลับตาปี๋ด้วยความหวาดกลัว ทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว อีกไม่นานคงจะมีจุดจบแบบเดียวกับชานอน
[กรรรรรร!?]
ความร้อนพุ่งเข้ามาเมื่อมังกรอ้าปากใหญ่ ๆ ของมันคำรามออกมา ร่างกายของไคล์แข็งทื่อ แต่มือกลับยังคงสั่นเทาไม่เปลี่ยน เท่านี้ก็จบแล้ว หนีไม่ได้อีกแล้ว เตรียมใจไว้แล้ว ยอมแพ้ไปแล้ว สุดท้ายจึงหลับตาลง
—-แต่ว่า
[….?]
แม้จะรอมาสักพักแล้วแต่มังกรก็ไม่มีท่าทีว่าจะขยับเลยสักนิด ทั้งที่ควรจะถูกกินไปแล้วแท้ ๆ พอลืมตาขึ้นมาด้วยความรู้สึกแปลกประหลาดแล้วก็พบว่ามังกรที่อยู่ตรงหน้าไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย
[เอ๊ะ…?]
เกิดอะไรขึ้นกัน ท่าทางของมังกรน่าสงสัยเหลือเกิน
[กรร…รรรร…]
หลังจากนั้นไม่นานมังกรก็เริ่มส่งเสียงด้วยความเจ็บปวดออกมาจากคอ ร่างกายตัวสั่นเทาลงไปทุรนทุรายกับพื้น
[กะ เกิดอะไร—]
มังกรตัวนั้นกำลังเจ็บปวดอยู่
[กุอา…รรรรรร….กรรรรรรร!!!]
เป็นเสียงกรีดร้องที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและวินาทีต่อมานั้น
กลางลำตัวของมังกรนั้น—ก็ระเบิดออก
[ว๊าก!?]
การระเบิดอันรุนแรงก่อให้เกิดปฏิกิริยาความร้อนขึ้น ไอร้อนแผ่ออกมากระจายออกมาทั่วร่าง ของเหลวสีแดงไหลออกมาไม่หยุด เมื่อมองไปที่ส่วนหัวของมังกรในขณะที่เห็นภาพแสนจะอดสูนั้น ก็พบว่าใบหน้าที่แสดงถึงความน่าหวาดหวั่นได้หายไปแล้ว ดวงตากลับกลายเป็นสีขาวไร้ชีวิตชีวาดั่งก่อน หลังจากนั้นร่างกายที่โซซัดโซเซก็ล้มตึงลงไปเสียงดัง
[เอ๋…?]
จับต้นชนปลายไม่ถูก ไคล์ทำได้เพียงมองดูอย่างงุนงงเท่านั้น แต่ด้วยความสับสนเขาก็ค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้ ๆ มังกรอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ เมื่อสังเกตเห็นเเลือดเนื้อของมันเป็นเช่นนั้นแล้วจึงสรุปได้ว่าตายแล้วแน่นอน
[ระเบิดตัวเอง…?]
ทันใดนั้นก็พลันเห็นว่าภายในท้องของมังกรมีผมสีทองสยายอยู่ แขนแสนขาวบอบบางกำลังปีนร่างที่สิ้นชีพแล้วของมันราวกับเป็นกำแพงมังกร
[โกหกน่า…]
มนุษย์นั่นเอง
มนุษย์คนนั้นกำลังะยืนอยู่บนตัวมังกรและหันหลังให้ไคล์ อาจเป็นเพราะน้ำย่อยของมังกรย่อยเสื้อผ้าไปหมด ทำให้เหลือเพียงแผ่นหลังขาว ๆ และเศษเลือดติดอยู่เท่านั้น แต่ว่าสิ่งนั้นก็เข้ามาอยู่ในสายตาของไคล์
[อื้ม~…ฮ่า]
มนุษย์คนนั้นกำลังบิดขี้เกียจอยู่ท่ามกลางภาพอันโหดร้ายตรงหน้า
[ความตายเนี่ยหายากกว่าการอยู่จริง ๆ ด้วย บ้าจริงเชียว]
คำพูดที่มีถูกปล่อยออกมาจากลำคอ
[ชะ…คุณชานอน…!?]
เป็นไปไม่ได้ ชานอนถูกมังกรกินเข้าไปแล้วนี่นา ในสภาพแบบนั้นแล้วไม่มีทางจะรอดไปได้ แต่ว่า
[เอ๋ ไคล์ยังอยู่อีกเหรอ? โถ่ ก็บอกให้หนีไปแล้วแท้ ๆ ]
น้ำเสียง ท่าท่างและใบหน้าแบบนั้นไม่มีทางเป็นใครอื่นไปได้อีก
[เอ่อ คือ…คือว่า จะว่าไปแล้วถูกมังกรกินเข้าไปก็ต้องตายไปแล้ว…]
พอลองมองดูดี ๆ ก็จะพบว่าร่างกายของชานอนมีรอยแผลไฟไหม้อยู่นับไม่ถ้วนและปกคลุมด้วยน้ำย่อยของมังกร
[แผลนั่น…เป็นอะไร—]
ชั่ววินาทีต่อต่อมา
บาดแผลที่เกิดขึ้นราวกับกำลังย้อนกลับไป ค่อย ๆ ย้อนไปทีละนิด
แผลที่ชวนให้เจ็บปวดหายไป กลับไปเป็นเพียงผิวขาวดังเดิมอีกครั้ง
[เอ๊ะ..?]
วินนาทีนั้นบาดแผลก็หายไปจดหมดเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ไคล์ทำได้เพียงกระพริบอย่างอย่างงุนงง
[แผลมัน…หายไปแล้ว…?]
[อ๊ะ ถูกเห็นซะแล้ว]
ระหว่างที่พูดชานอนก็ยื่นมือออกไปบนท้องฟ้าอันว่างเปล่า
จากนั้นมือก็เลื่อนเข้าไปในช่องว่างของอากาศที่รอบ ๆ ขยับเหมือนกับคลื่นน้ำ เวทมนตร์มิติที่ใช้เมื่อกลางวันนั่นเอง
พอชานอนดึงมืออกมาก็พบว่ามีเสื้อผ้าชุดใหม่อยู่ในมือ
ระหว่างที่กำลังใส่เสื้อผ้าชานอนก็หันไปหาไคล์แล้วยักไหล่
[ฉันน่ะน้าเป็นอมตะน่ะ]
[…ครับ?]
คำพูดที่ไม่เข้าใจทำให้เผลอพูดสุภาพออกมา
อมตะ ไม่แก่ ไม่ตาย
[สะ สรุปก็คือ…]
[ใช่ พูดง่าย ๆ ก็คือฉันไม่ทางตายได้ แย่มากเลยเนอะ]
ระหว่างที่อึ้งค้างกับความจริงนี้นั้น ชานอนก็ออกมาจากตัวมังกรโดยไม่ได้รับบาดแผลใด ๆ
****
[ผู้กล้าของเรากลับมาแล้ว!]
[โอ้ ชานอนสุดยอด ชานอนสุดยอด!]
[อย่างเจ๋งเลยนะแม่หนู!!]
เหล่าหนุ่มสาวของหมู่บ้านกำลังตะโกนแห่ร้องสรรเสริญชานอนอยู่
มังกรถูกกำจัดไปแล้ว หมู่บ้านตกอยู่ในสภาวะรื่นเริง
ผู้คนในหมู่บ้านเดินทางมารวมตัวกันอยู่ของหน้าบ้านของหัวหน้าหมู่บ้านและกำลังมีความสุขกันที่รอดพ้นจากภัยร้ายของมังกรโดยที่ไม่มีใครตายแม้แต่คนเดียว
[งานเลี้ยงครั้งนี้สุดยอดเลยนะ! เพราะคุณชานอนเลย!]
[ก็…]
ตรงกันข้ามกับความร่าเริงของหมู่บ้าน ชานอนกำลังนั่งค่อมหลังทำหน้าหมองหม่นอยู่บนเก้าอี้ในขณะที่แสงจากกองไฟทอดเงามาซ้อนทับกับใบหน้าของเธอ
ที่หมู่บ้านนี้ยังปลอดภัยเป็นเพราะชานอนก็จริง แต่ตอนนี้กลับจิตตกอยู่คนเดียวเช่นนั้น
[เป็นอะไรไปเหรอคุณชานอน? ทำหน้าผิดหวังแบบนั้น…? คุณชานอนตอนนี้เป็นผู้กล้าของหมู่บ้านเราเลยนะ!]
[วีรสตรีเหรอ~ ไม่ใช่เรื่องที่ฉันสนใจจะเป็นเลยแฮะ]
หลังพูดเสร็จก็เม้มปากราวกลับจะล้มตึงลงไป
[อาจจะเป็นแบบนั้นก็จริง แต่ว่าดูซะก่อนสิ! ทุกคนกำลังสนุกกันอยู่นะ จะถ่อมตัวก็ได้แต่คุณชานอนยังไงก็สุดยอดอยู่นะ!]
[มันก็ใช่อยู่หรอก แต่จะให้คนอย่างฉันเข้าไปสนุกกับพวกเขามันก็—-]
[ต้องได้อยู่แล้วสิแม่หนู!]
[ว๊าย]
ชานอนที่จิตตกอยู่ถูกแขนใหญ่ ๆ มาโอบไหล่เอาไว้ทำให้ชานอนเกือบล้มลงไปข้างหน้า
เจ้าของแขนนั่นก็คือผู้ชายคนที่เคยเจอที่ร้านเหล้านั่นเอง
[กินเข้าแม่หนู! วันนี้ตัวเอกของงานคือเธอนะ!]
[อุก! ยัดเข้าไปทีเดียวแบบนี้…เดี๋ยวก็ตายพอดี! ถึงจะตายไม่ได้ก็เถอะ]
เรจินัลด์เอาเนื้อชิ้นโตยัดเข้าไปในปากของชานอน
ชานอนที่แก้งพองขึ้นเคี้ยวงั่ม ๆ เข้าไปอย่างสิ้นหวัง
พอเห็นแบบนั้นแล้วเรจินัลด์ก็หัวเราะคำโตออกมา
[วะฮ่าฮ่า! กินเก่งดีนะแม่หนู! ช่วยได้เยอะเลย!]
[หนวกหูจริงน่า…คุณลุงบังคับให้กินไม่ใช่หรือไง]
[ฮ่าฮ๋า ก็ดีแล้วนี่! ตัวเอกของงานก็ต้องเอาเรื่องหน่อย! มานั่งจิตตกได้ไง]
หลังจากพูดเสร็จเรจินัลด์ก็หัวเราะออกมาอีก จากนั้นก็หยุดลงแล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา
[…คืองี้ ความจริงแล้วพวกเราขอบคุณเธอมากเลยนะ รู้อยู่แล้วว่ายังไงก็สู้ไม่ไหว ถ้าไม่ใช่เพราะแม่หนูคงโดนเผาตายกันหมดหมู่บ้านแล้ว]
ระหว่างที่ชานอนเคี้ยวเนื้อก็ฟังเรื่องราวจากเรนัลด์ไปด้วย
[แต่ว่าจอมเวทที่ไคล์พามาอย่างแม่หนู…ชานอน เธอน่ะช่วยปัดเป่ามังกรไปให้เรา เหมือนเป็นเรื่องตลกเลยที่ถ้าเข้าไปในป่าแล้วจะเจอศพมังกรนอนอยู่ แต่พวกเราก็ดีใจกันมากเลยที่หมู่บ้านเรายังไม่ถึงฆาต หัวหน้าหมู่บ้านเองก็คิดเหมือนกันว่าจะต้องขอความช่วยเหลือจากข้างนอก เพราะถึงจะยึดในธรรมเนียมยังไงแต่ถ้าไม่มีหมู่บ้านก็จบกัน]
เรจินัลด์มองไปที่ชานอน
[ยังไงก็ขอบคุณนะ เพราะแม่หนูแท้ ๆ ถึงรอดตายกัน ทั้งหมู่บ้านทั้งคนเลยนะ]
พอพูดจบเขาก็เอามือวางไว้ที่เขาแล้วก้มหัวให้
ชานอนที่เคี้ยวเนื้อเสร็จแล้วก็เปิดปากพูด
[ไม่ต้องคิดเยอะปานนั้นหรอก แค่บังเอิญเท่านั้นเอง เป้าหมายของฉันก็ไม่ใช่การกำจัดมังกรเพื่อช่วยหมู่บ้านสักหน่อย]
[ฮ่าฮ๋า ถ่อมตัวจริงนะ! ทั้งทีรีบไปจัดการมังกรก่อนใครแถมยังให้ชิ้นส่วนกับเราหมดด้วย ดูยังไงก็ไม่เห็นมีเป้าหมายอื่นเลยนี่]
[เป้าหมายน่ะมีอยู่นะ]
[เห งั้นขอฟังหน่อยสิ]
เรจินัลด์หัวเราะพลางดื่มเหล้าไปด้วย
[อยากไปลองให้มังกรฆ่าดูสักทีน่ะนะ]
[อุก!!]
เมื่อได้ยินคำนั้นเรจินัลด์ถึงกับพ่นเหล้าที่ดื่มไปออกมา อ้าปากค้างอยู่สักพักและตัวสั่นเล็กน้อย
[—-ก๊าก ฮ่าฮ่า!! พูดอะไรเนี่ยแม่หนู จะไปสู้ให้มังกรฆ่าเนี่ยเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วนี่!]
ผมเองก็คิดเหมือนกัน ไคล์พูดแล้วพยักหน้าอยู่คนเดียว
เรจินัลด์เอามือตีเข้าแล้วหัวเราะออกมากดัง ๆ ถึงขนาดน้ำตาไหลเลยทีเดียว
[แฮ่ก น่าสนใจจริง เริ่มเข้าใจความใจดีของแม่หนูแล้วสิ อย่างที่หัวหน้าหมู่บ้านบอกว่าเป็นปัญหาของคนในหมู่บ้านแต่เธอก็อยากจะช่วยอะไรสักอย่างใช่ไหมละ เลยพูดต่อหน้าเราไม่ได้ว่าไปหามังกรมาถูกไหมละ?]
[ไม่หรอกคุณเรจินัลด์ คุณชานอนน่ะความจริงแล้ว—]
จังหวะที่จะพูดตาก็ไปสบกับชานอนพอดี เธอยักไหล่และขยิบตาให้
เรจินัลด์นั้นเข้าใจผิดไป สิ่งที่ชานอนพูดนั้นเป็นเรื่องจริงทั้งหมด
ถ้าไม่ได้เห็นภาพนั้นด้วยตัวเองคงจะเชื่อไม่ลงแน่นอน
[ฉันเป็นแค่จอมเวทที่เป็นนักเดินทางธรรมดาไม่ได้สูงส่งอะไรแบบนั้นหรอกนะ แค่เป็นคนที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปเท่านั้นเอง]
[แหมเอาเถอะ จะยอมเชื่อก็ได้! แต่ก็ขอให้ข้าเห็นแก่ตัวกล่าวขอบคุณแม่หนูที่ทำให้พวกเรายังอยู่ตรงนี้เถอะ ช่วยรับไปที เธอเป็นผู้มีพระคุณของพวกเรานะ]
หลังจากพูดจบเรจินัลด์ก็กล่าวลาแล้วกลับไปในงานเลี้ยงด้วยรอยยิ้มอันจริงใจ
ทุกคนในหมู่บ้านรู้สึกขอบคุณชานอนเป็นอย่างมาก ถึงจะไม่ใช่เป้าหมายที่ตั้งไว้แต่ผลลัพธ์ก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลว
ชานอนอยากจะตาย และกำลังแสวงหาความตายด้วยตัวเองอยู่
เป็นเรื่องที่ได้ฟังแล้วอาจเชื่อได้ยาก แต่หากเห็นการกระทำเหล่านั้นแล้วจะเข้าใจ
และภาพที่ตกจากเขาตอนนั้น ก็ไม่ใช่ภาพลวงตาแต่อย่างใด
[แล้วนี่ยังอยากจะตายจริง ๆ เหรอ?]
[ก็เป็นเป้าหมายในการเดินทางของฉันนี่นา เดินทางไปเพื่อหาตอนจบของชีวิตฉันเอง โรแมนติกจ๋าเลยเนอะ?]
ชานอนหัวเราะและพูดราวกับว่าความตายของตนนั้นไม่ใช่เรื่องหน้าเศร้าแต่อย่างใด
[…ฮะฮะ คุณชานอนเนี่ยเจ๋งจริง ๆ ด้วยเนอะ]
[เหรอ?]
[อื้ม คนแบบนี้หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วแหละ]
[คนที่เป็นอมตะอาจจะมีสองคนก็ได้ แต่ของแบบนี้มีคนเดียวก็พอแล้วเนอะ]
หลังพูดจบทั้งสองหัวเราะออกมา
แม้จะพบกันไม่กี่วันแต่จะไม่ลืมจนวันตาย เพราะการพบเจอนี้ช่างเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่นัก
[แล้วก็ตอนที่เจอกันครั้งแรกที่ฉันกินเห็ดไปน่ะ อันนั้นเห็ดพิษจริงนะ ความรู้ของไคล์ไม่ผิดเลย ขอโทษที่ทำให้กลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะไปนะ]
[เอ๋! ความรู้ของผมก็ยังแม่นอยู่นี่เอง]
ชานอนเผยยิ้มออกมา
[แต่ว่า…สุดท้ายแล้วโดนมังกรกินก็ไม่ตายนี่น้า ความอมตะนี่มันสุดยอดจะเห็นแก่ตัวเลย]
ชานอนก้มหน้าด้วยความผิดหวังแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา
[แถมมังกรเนี่ยก็ไม่ได้เจอง่าย ๆ ด้วยน้า…ไม่ได้เจอมาตั้งร้อยปีแล้วด้วยสิ]
ไคล์ส่งเสียงถามชานอนที่กำลังพึมพำด้วยความผิดหวังอยู่
[คือว่านะ ในท้องมังกรเป็นยังไงเหรอ?]
[เหมือนอาบน้ำเลยแหละ บับว่าชุ่มช่ำมาก]
[นั่นมันแปลกสุด ๆ เลยนะนั่น]
[ครั้งหน้าเข้าไปด้วยกันไหม?]
ชานอนพูดพร้อมกับหัวเราะคิกคัก
[ไม่เอาหรอก คนธรรมดาเข้าไปก็ตายสิ…]
[น่าอิจฉาจังเนอะ]
วันรุ่งขึ้นชานอนก็ออกจากหมู่บ้านไป
โบกมือกลับมายกใหญ่ ส่วนไคล์ก็กล่าวว่าไว้พบกันใหม่พร้อมกับโบกมือตอบเช่นกัน
ครั้งต่อไปที่มาจะเป็นอีกสิบปีหรือร้อยปีกันแน่นะ แต่เวลานั้นหมู่บ้านคงเปลี่ยนแปลกไปยกใหญ่แน่นอน
เหมือนกับคราก่อนที่มาแล้วยังไม่มีมีหมู่บ้านด้วยซ้ำ
เดินทางออกไปทั่วโลก ใช้ความอมตะของตนเองช่วยเหลือผู้อื่นที่เดือดร้อน
—ไม่ใช่เป้าหมายสูงส่งเช่นนั้น แค่เพียงตามหา “ความตาย” ของตนเองอย่างบริสุทธิ์ใจเท่านั้นถึงได้เริ่มออกเดินทางเท่านั้น
[เอาละ ครั้งต่อไปจะลองตายแบบไหนดีน้า]
และชารอนย่ำเท้าต่อไป มุ่งสู่ทิศตะวันออก
Chapters
Comments
- ตอนที่ 3.3 เขาวงกตลับกับดักถึงตายค่ะ? 3 มิถุนายน 7, 2023
- ตอนที่ 3.2 เขาวงกตลับกับดักถึงตายค่ะ? 2 มิถุนายน 6, 2023
- ตอนที่ 3.1 เขาวงกตลับกับดักถึงตายค่ะ? 1 มิถุนายน 6, 2023
- ตอนที่ 2.3 โอเวอร์โดส 3 มิถุนายน 4, 2023
- ตอนที่ 2.2 โอเวอร์โดสค่ะ 2 มิถุนายน 2, 2023
- ตอนที่ 2.1 โอเวอร์โดสค่ะ 1 มิถุนายน 2, 2023
- ตอนที่ 1.3 ลองให้มังกรกินดูค่ะ 3 มิถุนายน 1, 2023
- ตอนที่ 1.2 ลองให้มังกรกินดูค่ะ 2 พฤษภาคม 31, 2023
- ตอนที่ 1.1 ลองให้มังกรกินดูค่ะ 1 พฤษภาคม 31, 2023
- ตอนที่ 0 บทนำ พฤษภาคม 31, 2023
MANGA DISCUSSION